วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559

แม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่

แม่กำปอง บ้านน้อยในป่าใหญ่ ที่เขียวและเย็นตลอดปี


      ธรรมชาติมากล้น ผู้คนน้ำใจดี มากมีดอกเอื้องดิน สู่ถิ่นเมี่ยงชาและกาแฟ มียาแท้สมุนไพร ชื่นฉ่ำใจน้ำตกเย็น เห็นวิวทิวเขาสวย ร่มรื่นด้วยสวนสนบนม่อนล้าน … นี่คือสิ่งที่จะได้พบหากไปเยือน “บ้านแม่กำปอง” จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านกลางหุบเขาขนาดกะทัดรัดที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อีกทั้งยังอุดมไปด้วยธรรมชาติและวิถีชีวิตของชุมชนที่แข็งแกร่งอยู่กับผืนป่าได้อย่างกลมกลืน



ที่นี่ 
มีโฮมสเตย์ 
มีความเงียบสงบ มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี 
มีเวลาที่เดินช้าสุดๆ มีความชิว 
มีน้ำตก มีจุดชมวิวสวยๆๆ
เอาง่ายๆๆคือมามาพักผ่อน ที่แบบไม่ต้องทำอะไรอะ กินเเล้วนอน 5555 
เอาปอดมาฟอกให้สดชื่นสักหน่อย 
แค่มาเดินเล่นๆให้หมาไล่ในหมู่บ้านก็คุ้มเเล้ว
สำหรับคนที่ชอบกาแฟ หรือเค้กมานี่มีให้กินแบบจุใจ
มีหลายๆๆร้านให้เลือก ลักษณะเด่นของที่นี้เลยคือ บ้านส่วนใหญ่จะติดกับลำธาร น้ำใสๆๆ ลงเล่นได้เลย บ้านเรือนจะแทรกตัวอย่างลงตัวกับธรรมชาติ 
น้ำมีตลอดทั้งปีนี่ผมไปตอนหน้าร้อนแต่ฝนตก อากาศตอนเช้าประมาณ 20 องศา นิดๆๆ 
อยากจะบอกว่าใครมีเวลาสักวันสองวันลองมาดู มันดีมาก ต้องลอง หมู่บ้านเค้ามีการบริหารจัดการดีมากที่พักทั้งหมดจะเป็นโฮมสเตย์ ประมาณ 20หลัง 
แนะนำให้ไปวันธรรมดาครับ คนจะน้อยเป็นพิเศษ พูดมากละ เหมือนเดิมนะครับกระทู้ของผมเน้นรูป ที่เหลือเชิญเสพครับ เน้นบรรยากาศ


  …  เริ่มแล้วมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้ของผม ผมขอเป็นส่วนหนึ่ง ของนักเดินทาง ที่มาแชร์ประสบการ์ณเล่าสู่กันฟัง  ความฝันเล็กๆของนักเดินทาง คือการไปสู้เป้าหมายที่ตั้งไว้ มันคงจะไม่เกิดประโยชน์อะไร  ถ้าผมจะเก็บมันไว้คนเดียว    

   แสงแดดอ่อนๆ ที่สะท้อนลงมาจากกิ่งก้าน ต้นไม้ใหญ่ ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น ตลอดทางเดินของหมู่บ้าน ทำให้สองเท้าที่ก้าวเดินไม่เหนื่อยล้าเลยสักนิด ลมเย็นๆที่โชยมา  ทำให้ต้องเอามือทั้งสองข้าง กอดอกไว้แน่น อากาศเริ่มหนาวแล้ว หมู่บ้านแห่งได้ชื่อว่ามีอากาศเย็นตลอดปี  สำหรับท่านใดที่ชื่นชอบท้าลมหนาว ผมบอกได้เลยว่า เตรียมหาวันหยุด แล้วเก็บกระเป๋าได้เลย    



 ...  ถ้าจะบอกไปว่าที่นี้เป็นเมืองทะเลหมอกก็ว่าได้  “ จุดชมวิว กิ่วฝิ่น ” 
ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถ้ามาจากหมู่บ้านแม่กำปองถึงตรงนี้ก็ใช้ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร พอมาถึงจุดชมวิว สิ่งที่พีคไปกว่านั้นคือ  เราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ถึง 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย  ลำปาง  ลำพูน เพราะตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของ 4 จังหวัดนี้  ถัดจากนี้ขอส่งต่อหน้าที่ให้ภาพได้เล่าเรื่อง    " ไม่ใช่แค่ภาพถ่าย แต่มันคือเรื่องราว "    




สายหมอกที่พาดผ่านสายตา มันเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ใบไม้ปลิว พริ้วไหวพร้อมเสียงลมพัดเข้าหู รู้สึกตัวอีกที " ตอนนี้ผมก็หลับตา โต้ทะเลหมอกไปแล้ว "  จะไม่ให้เคลิ้มได้ยังไง ทั้งอากาศที่เย็นเป็นใจ เสียงสวรรค์จากธรรมชาติ นับว่าเป็นของขวัญชิ้นพิเศษของวันใหม่ ณ จุดชมวิว " กิ่วฝิ่น "  


ลงมาจากจุดชมวิว ก็ไม่พลาดที่จะลิ้มรสบรรยากาศ  "  ร้านชมนกชมไม้ "  เป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟที่ผมการันตีความสวย ทีเด็ดของร้านนี้ ตั้งอยู่ในหุบเขา ตัวร้านทำจากไม้ทั้งหมด ดูเรียบง่าย มีระเบียงไม้ยื่นออกไป ได้อารมณ์เหมือนเรายืนอยู่หน้าผา เป็นร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติเป็นอย่างมาก นั่งจิบกาแฟท่ามกลางธรรมชาติ เป็นบรรยากาศที่ชวนให้หลงใหล มีเสน่ห์มากๆ  


ตบท้ายทริป  ... ความชิคแบบขั้นเทพ  ที่ต้องเดินข้ามสะพานแขวนเชื่อมทางระหว่างถนนไปสู้ร้านกาแฟ ที่มีคอนเซ็ปต์การสร้างแบบไม่ธรรมดา เพราะสร้างบนต้นไทรขนาดใหญ่ ให้มุมมองความเป็นธรรมชาติที่มากกว่า ราวกับว่า เราหลุดไปอีกโลกหนึ่งก็ว่าได้ ( อารมณ์เหมือนดูการ์ตูนที่มี ตัวละคร ตัวเล็กๆ มีบ้านอยู่บนต้นไม้ ) เป็นร้านกาแฟที่มีความฮอตฮิตในโลกโซเชี่ยว นักท่องเที่ยว ใกล้ไกล ต่างหลงไหล มาเช็คอิน " ร้านกาแฟ เดอะ ไจแอ้นท์ เชียงใหม่ "   



 แผนที่สำหรับการเดินทาง เพื่อจะช่วยเป็นไกด์ครับ  

ขอขอบคุณแรงบันดาลใจ จาก รายการเทยเที่ยวไทย 

้างอิงข้อมูลจาก